สาเหตุมาจาก?
เวลาส่วนใหญ่ตอนเรียนหมดไปกับอะไรบ้าง ลองคิดดูครับ ถ้าเวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการ “ฟังครู ดูกระดาน จดตาม” นี่คือการ “ป้อนเข้า” (ป้อนความรู้เข้าสมอง)
รู้ตัวอีกทีตอนสอบ
ในขณะที่ตอนสอบ ไม่มีการสอบไหนวัดว่าใครรู้เยอะกว่า มีแต่ข้อสอบที่วัดว่าใครดึงความรู้ออกมาใช้แก้ปัญหาได้มากกว่า นี่เป็นการ “ดึงมาใช้” (ดึงความรู้ออกมาใช้)
หาเรียนเพิ่ม
หลายคนรู้จุดนี้เลยหาคอร์สฝึกโจทย์ มีครูพาทำโจทย์ ได้เรียนเทคนิคแก้โจทย์ แต่ในคลาสเรียนมีเวลาจำกัด ถ้าจะปล่อยเวลาให้ผู้เรียนฝึกหาคิดหาคำตอบให้เต็มที่ก่อนจะเฉลย ก็ได้ไม่กี่ข้อและสอนไม่ทัน สุดท้ายก็ต้องรีบเฉลย ก็ฟังครู ดูกระดาน จดตาม เหมือนจะได้ฝึกดึงความรู้ออกมาใช้ แต่จริงๆแล้วกำลัง “ป้อนเข้า” ไม่ต่างจากที่โรงเรียน
ไม่ได้ใช้สิ่งที่เรียน
พอสิ่งที่เรียน กับ สิ่งที่สอบ มัน “สวนทาง” กัน จึงไม่แปลกเลยครับที่จะมีปัญหาตามมาอย่างที่น้องเจออยู่ “ทำโจทย์ไม่ได้ คิดช้าไม่ทันเวลา เรียนแล้วลืม” ใช้เวลาเรียนไปเยอะมากแต่กลับเตรียมสอบไม่ทัน ไม่ได้คะแนนตามที่หวัง
เทอมนี้จะตั้งใจละ?
เคยคิดแบบนี้ตอนเปิดเทอมกันไหมครับ “เทอมนี้จะตั้งใจเรียนให้รู้เรื่อง ให้เข้าใจให้ได้” ลองปรับเป้าหมายใหม่ว่า “เทอมนี้จะตั้งใจสอบให้ได้คะแนนท็อปเลย” แบบนี้จะเห็นผลกว่า ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?
วิธีการเปลี่ยนตามเป้าหมาย
ถ้าคุณหวังแค่เรียนเข้าใจ ไม่ได้แปลว่าจะทำข้อสอบได้ (มีนักเรียนเจอปัญหานี้เยอะมาก เรียนเข้าใจแต่ทำโจทย์ไม่ได้) และถึงขยับเป้าหมายเป็นเรียนยังไงให้ทำโจทย์ได้ ก็ยังไม่จบ คุณจะเจอปัญหาอีก 2-3 ด่าน
เพราะอะไร? คำตอบอยู่ในคลิปนี้
เตรียมสอบไม่ทัน เพราะ?
เมื่อคุณทำโจทย์ได้ ก็ยังเจอปัญหาทำไม่ทันเวลาสอบ และเมื่อคุณฝึกจนคล่องจนทำได้ทันเวลา ก็จะเจอปัญหากับดักจุดลวงในข้อสอบอีก คือคิดว่าทำได้แต่พลาดแบบไม่รู้ตัว เพราะต้องแก้ปัญหาไปทีละขั้นแบบนี้ คนส่วนใหญ่จึงใช้เวลากับการเรียนมาก และพอหลายๆวิชาก็เตรียมสอบไม่ทัน มีเวลาไม่พอ
ตั้งเป้าหมายให้ถูก
เทคนิคที่ผมบอกในคลิป เมื่อถ้าคุณตั้งเป้าหมายเลยว่าจะสอบให้ได้ท็อป วิธีการจะเปลี่ยน ไม่ใช่แค่เรียนเข้าใจ แต่ต้องทำข้อสอบได้ แบบทันเวลา และต้องรู้ทันกับดักจุดลวงต่างๆในข้อสอบด้วย วิธีเรียนให้ได้แบบนี้ก็จะเป็นอีกแบบ
เพดานสูง
ถ้าเราตั้งเพดานไว้สูงแต่แรก สมองกับจิตใต้สำนึกเราจะเตรียมแรงกายแรงใจไว้เพื่อทำสิ่งนั้นที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จ วิธีคิด การตัดสินใจระหว่างทางก็จะชัดเจนขึ้น มุ่งสู่เป้าหมาย ไม่ว่าจะไปถึงหรือไม่ ก็ยังไปได้ไกลกว่าการตั้งเพดานไว้ต่ำตั้งแต่แรก
รู้จุดออกสอบ
จะดีกว่าไหมครับถ้าเรามี “ลิสท์จุดออกสอบ” แบบที่ทีมออกข้อสอบเขาใช้ดูเป็นแนวทางตอนตั้งโจทย์ วางช๊อยส์ ไม่ว่าหลักสูตรจะปรับ หรือทีมออกข้อสอบจะเปลี่ยน ซึ่งเขาปรับและเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ และมันก็อาจตรงกับปีที่คุณสอบเข้าฯพอดี
ดักตั้งแต่ต้นทาง
ถ้าคุณมี “ลิสท์” ที่ว่านี้ ซึ่งมันก็คือ “จุดวัดความรู้” ที่จะเอามาออกข้อสอบได้ทั้งหมด คุณก็ไม่ต้องวิ่งตามแนวข้อสอบอีกต่อไป เพราะดักตรงต้นทางวัตถุดิบที่ใช้ออกสอบไว้แล้ว ไล่ไปทีละ Concept Keyword แยกตามบทเรียน มีตัวอย่าง มีโจทย์พื้นฐานให้ฝึกทำ ไล่ระดับไปจนถึงข้อสอบแข่งขัน พร้อมเฉลย
ใช้จริงทันเวลาสอบ
ได้เรียนวิธีแก้โจทย์ที่ใช้จริงตอนสอบแล้วทำทันเวลา ต่างจากเฉลยส่วนใหญ่วิธีคิดเกินเวลาสอบจริง (เช่น ข้อสอบให้ทำ 90 นาที เฉลยไปเกือบ 3 ชม. ถึงจบ ต่อให้คุณทำตามได้คล่องก็ไม่ทันเวลาอยู่ดี)
ใช้โจทย์นำเนื้อหา
“ลิสท์” ที่ว่านี้ทำให้ใช้โจทย์นำเนื้อหา พอเรียนวิธีนี้คุณจะไม่มีอาการ “เรียนเข้าใจแต่ทำโจทย์ไม่ได้” เพราะสมองชอบการเรียนรู้วิธีนี้มากกว่าถูกป้อน
ได้เนื้อหาแน่นกว่า ฝึกโจทย์ลึกกว่า
เราจึงตั้งใจทำคอร์สเรียนที่คุณจะได้ฝึกดึงความรู้ออกมาใช้ตลอดเวลาที่เรียน ผ่านโจทย์ฝึกเรียงจากพื้นฐานไปถึงข้อสอบแข่งขัน โดยเฉลยวิธีคิดทุกข้อทำทันเวลาตอนสอบจริง และใช้เวลาเรียนน้อยกว่าคอร์สทั่วไป 2-3 เท่า
แก้ปัญหาเรียนแล้วลืม
อาการ “ขึ้นบทใหม่ลืมบทเก่า” จะหายไปเลย เพราะการเรียนที่ใช้โจทย์นำเนื้อหา สมองจะเก็บความรู้ที่เรียนไว้อย่างถูกที่ถูกทาง มีการเชื่อมโยงความรู้กันเพื่อให้ดึงมาใช้งานได้สะดวก และกลายเป็นความทรงจำระยะยาวได้เร็ว (และนี่คือเหตุผลที่คุณจะทำโจทย์ได้คล่องขึ้นเรื่อยๆ)
ได้เวลาเพิ่ม
คุณจะได้เปรียบเรื่องเวลา เพราะได้เวลาคืนไปเกือบร้อยชั่วโมงต่อเทอม คอร์ส 1 เทอมที่นี่ใช้เวลาเรียน 24 ชม. ก็จบได้ (คลิปเรียน 16 ชม.+ ฝึกแก้โจทย์ 8 ชม. โดยเฉลี่ยบวกลบนิดหน่อย) โดยได้ฝึกโจทย์มาก 500-800 ข้อ
*เทียบจากคอร์สทั่วไปโจทย์ปริมาณนี้ใช้เวลาเกิน 100 ชม. (คือเรียน 70-100 ชม.+เวลาทำการบ้านอีก 20-30 ชม.) จึงเซฟเวลาให้คุณได้เทอมละ 60-100 ชม.
แถมเหนื่อยน้อยลง
ตอนคุณอยู่ ม.6 เตรียมสอบเข้าฯ คุณไม่ต้องเสียเวลาเรียนย้อนทบทวนของ ม.4-5 ซ้ำอีก เพราะเรียนวิธีนี้จะยังจำได้อยู่ จึงสามารถตะลุยข้อสอบต่อไปเลย (คุณจะได้เวลาเพิ่มมาอีก 200-300 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ต้องเสียเวลาเรียนคอร์สเอ็นฯย้อนทวนตั้งแต่ ม.4 อีกรอบ)
ไม่ต้องกรอเร่งคลิป
เพราะเป็นคอร์สเรียนออนไลน์ในเว็บไซต์นี้ เรียนผ่านเป็น VDO คัดพิเศษ (ไม่ใช่เทปอัดจากห้องสด) อย่างที่บอกในคลิปว่าเราตัดน้ำออกหมดเหลือแต่เนื้อๆ ไม่ต้องรอครูเขียนกระดาน/ลบกระดาน จึงทำให้เรียนที่นี่ 1 ชม. ได้เทียบเท่าเรียนสด 2 ชม.
ถามครูได้เหมือนเรียนสด
แชทถามครูกุ๊กได้โดยตรงเมื่อมีข้อสงสัยระหว่างเรียน ปรึกษา/วางแผนเตรียมสอบ (เคมี) ได้เหมือนมีโค้ชส่วนตัว ครูตอบน้องๆทุกคนด้วยตัวเอง และด้วยเหตุผลนี้จึงต้องรับจำนวนจำกัด เพื่อให้ดูแลได้ทั่วถึง และเมื่อมีน้องๆในระบบเยอะขึ้นจนครูเริ่มตอบไม่ทันก็จะปิดรับสมัครเป็นช่วงๆ
ถ้านี่คือสิ่งที่คุณต้องการ
เลือกดูคอร์สเรียนด้านล่างนี้ กดสมัครได้เลย หนังสือเรียนจัดส่งฟรีให้ถึงบ้าน หากต้องการดูตัวอย่างคอร์ส กดที่นี่ dekwiz.com/sample ครูจะพาดูตัวคอร์ส ว่าเรียนยังไง แบบไหน แล้วเจอกันในคอร์สนะครับ
คอร์สเรียนเคมี STEP UP ม.ปลาย ม.4 ม.5 ม.6 + SPEED & TECHNIC ครบชุด
+ ครบเซ็ตที่ครอบคลุมเนื้อหาเคมีตั้งแต่ ม.4 – ม.5 – ม.6 พร้อมเทคนิคอัพคะแนนให้สูงขึ้น
+ แพ็กเกจสุดคุ้ม! จ่ายเพียง 5 เล่ม แต่ได้เรียนถึง 7 เล่ม
+ ราคาพิเศษสุดคุ้ม คิดเวลาแยกกันเหมือนซื้อแยก
คอร์สเรียนเคมี STEP UP ม.ปลาย ม.4 ม.5 ม.6
+ ความยาว 80 ชม. พร้อมโจทย์สำหรับฝึกอีก 3,300 ข้อ
+ ห้าเล่มราคาพิเศษ คิดเวลาแยกกันเหมือนซื้อแยก
คอร์สเรียนเคมี STEP UP เคมี ม.4 เทอม 1
+ มีโจทย์ให้ฝึกกว่า 750 ข้อ
+ ความยาวของคอร์ส 18 ชั่วโมง 25 คาบ
คอร์สเรียนเคมี STEP UP เคมี ม.4 เทอม 2
+ ความยาวของคอร์ส 16 ชม.
+ เทคนิคเคมีคำนวณ จะคิดช้าหรือคิดเร็วแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับบทนี้
คอร์สเรียนเคมี STEP UP เคมี ม.5 เทอม 1
+ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฝน ทบทวนเนื้อหา ฝึกทำโจทย์ให้เก่งขึ้น หรือต้องการทบทวนก่อนสอบ
+ คอร์สเคมีคอร์สนี้เป็นบทคำนวณผสมกับบรรยาย ไม่ว่าโจทย์จะมาแบบไหน หลายแนว จุดหลอกเยอะ เราดักไว้หมด
+ ความยาวของคอร์ส 15 ชั่วโมง 19 คาบ
คอร์สเรียนเคมี STEP UP เคมี ม.5 เทอม 2
+ เหมาะกับผู้ที่อยากฝึกฝน ทบทวนให้เก่งและแม่นขึ้น
+ ความยาวเพียง 14 ชม. 23 คาบเท่านั้น
คอร์สเรียนเคมี STEP UP เคมี ม.6 เทอม 1-2
+ บทที่ซับซ้อน แพ้ทางกันเยอะ ถ้าใครรู้หลัก จับทางได้ เรื่องนี้จะไม่ยาก
+ ความยาวของคอร์สนี้ 15 ชม. (24 คาบ)